Before พื้นฐานเดิม หน้าผากแคบ แบน ไม่มีมิติ มีโหนกคิ้วสูง ทำให้หน้าดูแข็งนิดๆ ต้องแต่งรูปช่วย ฉันเหนื่อยมากนะ😂
และอยู่ดีๆก็ตัดสินใจทำเลย แบบเล็งๆไว้แล้วแต่มีเวลาพักฟื้นเลยเอาเลย😂
ที่เลือกเสริมแผ่นซิลิโคนเพราะตอนนั้นข่าวออกเยอะมากว่าฉีดหน้าผากแล้วไหลลงตามแรงโน้มถ่วงโลก ปัญหาเยอะแก้เยอะ ไม่นับรวมกับกรณีโดนฉีดสารปลอมจากหมอปลอมอีก เลยจัดซิลิโคน จบๆ ไม่ต้องเสียค่าขูดฟิลเลอร์ถ้าจะไปเสริมซิลิโคน เจ็บแต่จบ55555 ระหว่างทำตื่นเต้นมากแบบลก
หมอใช้เป็น local anesthesia หรือยาชาเฉพาะที่ ปรากฎว่าไม่เจ็บเลย ไม่เจ็บอีกแล้ว555555555 มันชา แต่ตอนเหลาหน้าผากกับโหนกคิ้วนี่ได้ยินเสียงชัดๆแจ่มๆ ไม่เจ็บนะ แต่เสียวจากเสียงเวลาโดนขูด แบบครื้ดๆๆ เราใส่ซิลิโคนไซต์ s ตอนนี้ผ่านมาปีกว่าแอบคิดว่าอยากได้ไซต์m เพราะตอนนี่เนียนเก่ง อยากนูนอีกนิด ไม่ได้ใช้ซิลิโคนแบบหล่อเอง เพราะแพงกว่า ตังหมด5555555555
After สวยถูกใจ นูน ถูกใจมาก แต่งหน้าแต่งตัวง่ายขึ้น แต่อยากให้นูนกว่านี้อีก5555ความชอบส่วนตัว ทั้งนี้ทั้งนั้น
มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อเสียคือ 1.ต้องพันหัว ใช้เวลาพักฟื้นเยอะมาก พันหัว14วัน เหมือนคนโดนรถชน 55555555555 หลังจากนั้นงงๆกับบริเวณหน้าผาก ชาๆอีกหลายเดือน แบบไม่รู้สึก แต่ตอนนี้กลับมารู้สึกแล้ว
2.มีแผลเล็กๆในผม เจ็บแผลหลายเดือนอยู่ เวลาทำผมต้องระวัง แต่ตอนนี้หายจนหาไม่เจอแล้ว
3.เสียวมากตอนทำ แต่ไม่เจ็บ ประเด็นคือมาปวดหลังจากยาชาหมดฤทธิ์จ้า ปวดแบบเป็นไข้ ไข้ขึ้น กินไรไม่ได้ ต้องนอนยกหัวสูงบนเตียง เหมือนคนโดนรถชนจริงๆ เพราะฉะนั้นต้องเผื่อเวลาพักฟื้นเยอะๆ อย่างน้อยสุด 14 วัน
4.ไม่ได้สระผม 14 วัน ต้องค่อยดูแลทำความสะอาดแผล พันผ้าให้แน่นๆๆๆๆ
5.หลังทำจมูกจะโด่งน้อยลง ต้องคำนวณดีๆก่อนทำ
6.เลือกหมอดีๆเพราะบางคนเห็นขอบซิลิโคนตรงหน้าผาก แต่ของเราไม่เห็น เนียนกริบ รู้สึกโชคดี
7.หลังจากนั้น1ปี เลี่ยงการนวดหัว แต่ตอนนี่ก็นวดได้ไม่รู้สึกอะไรแล้วแต่ก็ไม่ชอบนวดหัวอยู่ดี 😂
ข้อดี
1.สวย แต่งรูปน้อยลง ไม่ต้องตุ้งหน้าผาก หน้าผากสวย กว้างขึ้น แต่งหน้าง่าย ประหยัดเวลา
2.หน้าหวานขึ้นมาก เพราะโดนเหลาโหนกคิ้ว😂 ละมุนนี
3.จมูกจะดูไม่แข็ง ดูหวานๆ หน้ามีมิติ
4.รอยย่นตรงหน้าผากหายเฉยเพราะผิวหน้าโดนขยาย เลยไม่ย่นล้ะ
5.มีพื้นที่ไว้ผมหน้าม้าได้แล้ว อิอิ
6.รวบผมแล้วสวยขึ้นมาก มีส่วนเว้าส่วนโค้งของใบหน้า
